มาทำความรู้จัก น้ำดิบ คืออะไร ? การบริโภคน้ำดื่มเข้าไป มีความอันตรายหรือไม่

น้ำดิบ

ในร่างกายของมนุษย์มีน้ำเป็นส่วนประกอบมากถึง 60% เลยทีเดียว ในแต่ละวันร่างกายควรดื่มน้ำอย่างเพียงพอ หรือดื่มน้ำให้ได้ประมาณ 8 แก้ว/วัน น้ำช่วยดับกระหายและช่วยให้ร่างกายเกิดความสมดุล ทดแทนเหงื่อที่เสียไป แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากเราดื่มน้ำที่ไม่สะอาดเข้าไปหรือน้ำที่ยังไม่ผ่านกระบวนการกรอง อย่างเช่น น้ำดิบ แน่นอนว่าไม่ดีต่อสุขภาพร่างกายของเราอาจตามมาซึ่งผลข้างเคียง มีอันตรายมากกว่าที่หลายคนคิด

น้ำดิบ คืออะไร ?

น้ำดิบ คือ น้ำที่ยังไม่ได้ผ่านกระบวนการกรอง หรือน้ำที่ยังไม่ผ่านกระบวนการบำบัด แหล่งน้ำดิบ ยกตัวอย่างเช่น แหล่งน้ำผิวดิน น้ำจากแม่น้ำ ลำคลอง เขื่อน อ่างเก็บน้ำ นอกจากนั้นน้ำดิบยังอาจมาจากแหล่งน้ำใต้ดิน อาทิ น้ำบาดาล เป็นต้น แหล่งน้ำดิบต่างๆ สามารถนำมาผลิตเป็นน้ำประปา หรือน้ำดื่ม มีประโยชน์ทั้งด้านการอุปโภคและบริโภค

น้ำดิบ สามารถบริโภคได้ไหม

น้ำดิบสามารถดื่มได้ไหม หากนำมาบริโภคไม่แนะนำเป็นอันขาด เนื่องจากน้ำดิบที่มาจากแหล่งน้ำต่างๆ ในธรรมชาติ ยังไม่ได้ผ่านกระบวนการกรอง ดังนั้น น้ำจึงยังไม่สะอาดเพียงพออาจมีการปนเปื้อนของสารเคมี มีกลิ่นเหม็น มีการปนเปื้อนของสิ่งสกปรก เชื้อโรคหรือแบคทีเรีย รวมถึงสิ่งต่างๆ ที่เป็นพิษต่อร่างกาย มีอันตรายอย่างมากหากดื่มเข้าไปอาจส่งผลเสียต่อร่างกายหลายอย่าง  

น้ำดิบ มีความอันตรายไหม

แน่นอนว่าน้ำดิบมีอันตราย ในกรณีที่บริโภคเข้าไปในร่างกายแล้วยังไม่ได้ผ่านกระบวนการกรอง แม้แต่การนำมาอุปโภคใช้สอยในด้านต่างๆ เช่น การนำมาใช้ในกระบวนการผลิตมีผลต่อคุณภาพสินค้า หรือนำมาล้างวัตถุดิบ ล้างผัก ผลไม้ สารเคมีบางอย่างที่ปะปนในน้ำอาจมีอันตรายเข้าสู่ร่างกายของเราได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม

หากบริโภค น้ำดิบ เข้าไปจะได้รับกระทบอะไรบ้าง

1.ท้องร่วงและอาเจียน

หลายคนเข้าใจว่าน้ำใสสะอาดคือน้ำที่ดื่มได้อย่างปลอดภัย จริงๆ แล้วภายใต้ความใสสะอาดนั้นอาจเต็มไปด้วยเชื้อโรค แบคทีเรียหรือสารเคมีต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่าการดื่มน้ำดิบที่ยังไม่ได้ผ่านกระบวนการกรอง เมื่อดื่มเข้าสู่ร่างกายจะทำให้ร่างกายของเราได้รับเชื้อโรค หรือแบคทีเรียต่างๆ ที่ปะปนมากับน้ำ ผลที่ตามมาคือท้องร่วงหรืออาเจียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กและผู้สูงอายุ มีความเสี่ยงสูงมากต้องระมัดระวังให้ดี บางครั้งอาการท้องร่วงหรืออาเจียนอาจยังไม่เกิดขึ้นแบบทันทีทันใดแต่ถ้าสิ่งสกปรกเหล่านั้นเกิดการสะสมในร่างกายของเรานานๆ ไม่ใช่แค่ท้องร่วมหรืออาเจียนแต่อาจมีโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เข้ามาเบียดเบียน  

2.โลหะหนักเป็นพิษต่อร่างกาย

การดื่มน้ำดิบหรือดื่มน้ำที่ไม่สะอาด มีการปนเปื้อนของโลหะหนักเป็นพิษต่อร่างกาย โลหะหนักที่ปนเปื้อนมากับน้ำ เช่น เหล็ก เมื่อดื่มเข้าสู่ร่างกายมีผลต่อระบบทางเดินอาหาร การย่อยอาหารมีประสิทธิภาพน้อยลง เสี่ยงต่อการเกิดโรคตับด้วย ปรอทที่ปนเปื้อนในน้ำอาจทำให้ปวดท้อง หรือถ้ารุนแรงจะส่งผลต่อระบบประสาทในด้านความจำ ทำให้ความจำเสื่อม แมงกานีสที่มากับน้ำไม่สะอาดอาจทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ทำลายระบบประสาทได้เช่นกัน หรือแม้แต่ทองแดง โลหะหนักที่ปะปนมากับน้ำหากสะสมในร่างกายนาน อาจส่งผลต่อการทำงานของตับได้ เป็นต้น 

3.กระทบต่อสุขภาพแบบฉับพลัน

การบริโภคน้ำดิบที่ยังไม่ผ่านการกรอง มีการปนเปื้อนของสิ่งต่างๆ ที่อันตรายต่อร่างกาย บางครั้งไม่ต้องรอให้สะสมในร่างกายเยอะแล้วแสดงอาการเจ็บป่วย บางรายพบว่าสุขภาพแย่ลงแบบฉับพลัน รวมถึงโรคภัยที่เกิดขึ้นในระยะยาว จากข้อมูลด้านสถิติพบว่าเชื้อโรคที่มักปนมากับน้ำดื่ม เช่น ลิฟอร์ม ทำให้ป่วยคล้ายกับโรคไข้หวัด มีไข้และท้องเสีย เชื้ออีโคไล ทำให้ปวดท้องหรือท้องเสีย คลื่นไส้อาเจียน รวมถึงเกิดภาวะอ่อนเพลียต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นหลายวัน

ทุกคนคงเห็นแล้วใช่ไหมว่า การบริโภคน้ำดิบเข้าไปนั้นส่งผลกระทบต่อร่างกายของเรามากแค่ไหน สิ่งสกปรก เชื้อโรค แบคทีเรีย โลหะหนัก หรือสารพิษต่างๆ ที่ปนเปื้อนมาจากแหล่งน้ำ อาจส่งผลกระทบที่ร้ายแรงต่อร่างกายของเราได้ ทางที่ดีเราควรดื่มน้ำสะอาด น้ำที่ผ่านกระบวนการกรองอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น เครื่องกรองน้ำ RO , ระบบกรองน้ำ RO มีประสิทธิภาพสูงได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง สิ่งแปลกปลอมต่างๆ ถูกดักจับด้วยเยื่อเมมเบรนที่มีความละเอียดสูง ยากที่จะเล็ดลอดผ่านไปได้ แม้แต่เชื้อโรค ไวรัส หรือแบคทีเรีย