การบำบัดน้ำเสียฟาร์มสุกร ที่ถูกต้องมีแบบไหนบ้าง ต้องทำอย่างไร

น้ำเสียจากฟาร์มสุกรต้องบำบัดอย่างไรจึงจะเหมาะสม

น้ำเสียจากฟาร์มสุกร

น้ำเสียจากฟาร์มสุกร เป็นน้ำที่มีความสกปรกสูงมาก ๆ เพราะเป็นน้ำที่เกิดขึ้นจากการล้างทำความสะอาดโรงเรือนหมูที่มีทั้งน้ำปัสสาวะและอุจจาระของสุกร ทำให้มีปริมาณของน้ำเสียทั้งอินทรีย์และอนินทรีย์สูงและอาจมีผลกระทบต่อดิน น้ำ และอากาศหากไม่ได้รับการจัดการที่เหมาะสม

ซึ่งปกติน้ำเสียที่เกิดจากการเลี้ยงสุกรขุน จะมีความสกปรกมากกว่าการเลี้ยงสุกรแบบพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ โดยมีค่า BOD เฉลี่ยอยู่ที่ 1,500-3,000 มิลลิกรัม/ลิตร หากไม่เก็บมูลของสุกรออกก่อนค่า BOD ก็อาจจะสูงถึง 7,000-10,000 มิลลิกรัม/ลิตร แต่หากเก็บมูลหมูออกก่อนล้างฟาร์มค่า BOD ที่พบก็จะต่ำกว่า 1,000/ลิตร

เราจึงจำเป็นต้องบำบัดน้ำเสียให้ได้มาตรฐานน้ำทิ้งก่อนปล่อยสู่ธรรมชาติ โดยต้องเลือกระบบบำบัดน้ำเสียที่เหมาะสมกับปริมาณน้ำเสียที่เกิดขึ้นในฟาร์ม บทความนี้จึงจะพาไปทำความรู้จักกับระบบบำบัดน้ำเสียจากฟาร์มสุกรให้มากขึ้น พร้อมกับบอกประโยชน์ของการบำบัดน้ำเสียจากฟาร์มหมูก่อนปล่อยลงสู่แหล่งรับน้ำธรรมชาติ

ระบบบำบัดน้ำเสียจากฟาร์มสุกร

ระบบบำบัดน้ำเสียจากฟาร์มสุกร

การบำบัดน้ำเสียฟาร์มหมูแบบถังเกรอะ-ถังกรองไร้อากาศ เป็นระบบบำบัดน้ำเสียที่เหมาะกับฟาร์มขนาดเล็กที่ต้องการกำจัดน้ำเสียที่มีปริมาณอินทรียวัตถุสูง

โดยองค์ประกอบของระบบบำบัดน้ำเสียประเภทนี้ประกอบไปด้วย ถังเกรอะ ที่ทำหน้าที่แยกของแข็งออกจากของเหลว ถังกรองไร้อากาศ ช่วยลดค่า BOD และ COD ถังแยกตะกอนหนัก ทำหน้าที่แยกตะกอนหนัก เช่น ดิน ทราย และของแข็งอนินทรีย์จากน้ำเสีย ส่วนบ่อผึ่ง ทำหน้าที่ในการบำบัดขั้นตอนสุดท้ายด้วยการใช้พลังงานแสงอาทิตย์และการเติมออกซิเจนจากธรรมชาติ ด้วยลดกลิ่นเหม็น และทำให้น้ำเสียมีคุณภาพที่ดีมากขึ้น เหมาะสำหรับการปล่อยลงสู่ธรรมชาติ

ข้อดีจากการบำบัดน้ำเสียจากฟาร์มสุกรก่อนปล่อย

ประโยชน์จากการบำบัดน้ำเสียจากฟาร์มสุกรก่อนปล่อยลงสู่ธรรมชาติ

1.ปกป้องระบบนิเวศและแหล่งน้ำธรรมชาติ

การบำบัดน้ำเสียในฟาร์มก่อนปล่อยลงสู่ธรรมชาติ ช่วยลดการปนเปื้อนในแหล่งน้ำ ป้องกันการสะสมของอินทรียวัตถุและสารอาหารส่วนเกิน เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส ที่อาจทำให้เกิด Eutrophication ที่ส่งผลกับระบบนิเวศในน้ำเสียสมดุล นอกจากนี้ก็ยังช่วยลดความเสี่ยงในแหล่งน้ำธรรมชาติ ที่อาจกลายเป็นที่อยู่อาศัยที่ไม่เหมาะสมสำหรับสิ่งมีชีวิต

2.ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

เนื่องจากน้ำเสียจากฟาร์มหมูมีความสกปรกมาก การบำบัดก่อนปล่อยทิ้งจะช่วยกำจัดแหล่งกำเนิดของกลิ่นไม่พึงประสงค์ ลดกลิ่นเหม็นของมูลสัตว์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่เกิดจากการเน่าเสียในน้ำได้

3.ช่วยส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตของชุมชน

การบำบัดน้ำเสียจากฟาร์มสุกรก่อนปล่อยสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เพราะจะช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคติดต่อ ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคและพาหะนำโรคต่าง ๆ เช่น แมลงวัน ยุง นอกจากนี้ก็ยังช่วยปกป้องแหล่งน้ำดื่มและการเกษตร ช่วยลดการปนเปื้อนของแหล่งน้ำในชุมชนในการอุปโภค บริโภค

4.ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร

เมื่อทำการบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยทิ้ง จะทำให้เราสามารถนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ได้ เช่น รดน้ำต้นไม้ ล้างคอกสัตว์ หรือใช้ในระบบเกษตรกรรม นอกจากนี้ของเสียที่ถูกแยกออกจากน้ำ ก็ยังสามารถนำไปหมักเพื่อผลิตเป็นก๊าซชีวภาพ และใช้เป็นแหล่งพลังงานทดแทนได้ด้วย

5.เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี

สำหรับประโยชน์ของการบำบัดน้ำเสียอย่างมีประสิทธิภาพ แน่นอนว่าจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับคนในชุมชน ว่าฟาร์มมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ถือเป็นการส่งเสริมให้ฟาร์มเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจหมุนเวียน ด้วยการนำทรัพยากรกลับมาใช้ซ้ำด้วย

สรุป

จะเห็นได้ว่าการบำบัดน้ำเสียจากฟาร์มสุกร เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพชุมชน และสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรมการเกษตร พร้อมทั้งช่วยเสริมภาพลักษณ์ของฟาร์มในฐานะองค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม

ดังนั้นก่อนที่จะปล่อยน้ำเสียจากฟาร์มหมูลงแหล่งรับน้ำ จึงต้องทำการบำบัดน้ำเสียให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมตามที่กฎหมายกำหนดเอาไว้ก่อน และนอกจากนี้ก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับคนที่กำลังมองหาวิธีการบำบัดน้ำเสียจากฟาร์มหมูได้ไม่มากก็น้อย