ตะไคร่น้ำคืออะไร
ตะไคร่น้ำ คือ สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กชนิดพืชน้ำ ที่สามารถสังเคราะห์แสงเพื่อสร้างอาหารเองได้ เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศน้ำ ตะไคร่น้ำมักมีสีเขียว ฟ้า หรือเขียวอมฟ้า ขึ้นอยู่กับชนิดและสภาพแวดล้อมของน้ำ โดยสามารถเจริญเติบโตได้ทั้งในน้ำจืด น้ำเค็ม และน้ำกร่อย
มักพบเกาะตามผนังถังเก็บน้ำ ลอยอยู่ในน้ำ หรือสะสมอยู่ในตะกอนใต้ถัง และแม้ว่าตะไคร่น้ำจะเป็นสิ่งมีชีวิตธรรมชาติและมีบทบาทในระบบนิเวศน้ำ
แต่การเจริญเติบโตมากเกินไปในถังเก็บน้ำก็สามารถส่งผลเสียต่อคุณภาพน้ำ ทั้งทำให้น้ำมีกลิ่น รสชาติเปลี่ยน สีขุ่น และเพิ่มความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของเชื้อโรคและแบคทีเรีย ทำให้ต้องมีการจัดการและดูแลอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้ตะไคร่น้ำขึ้นในปริมาณมาก

ตะไคร่น้ำเกิดจากอะไร
ตะไครน้ำเกิดจากปัจจัยหลายประการที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของมัน โดยส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมและคุณสมบัติของน้ำ ดังนี้
- แสงสว่าง : ตะไคร่น้ำต้องการแสงเพื่อสังเคราะห์แสง ถ้าถังเก็บน้ำได้รับแสงแดดส่องตรงหรือมีแสงไฟเข้าถึง จะทำให้ตะไคร่น้ำเติบโตเร็วขึ้น
- น้ำที่นิ่งหรือหมุนเวียนช้า : จะทำให้ตะไคร่น้ำเกาะตัวและสะสมตามผนังถังหรือพื้นถังได้ง่าย
- สารอาหารในน้ำ : น้ำที่มีสารอาหาร เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส หรืออินทรียวัตถุ จะช่วยให้ตะไคร่น้ำเจริญเติบโตได้ดี
- อุณหภูมิของน้ำ : น้ำอุ่นหรือน้ำที่มีอุณหภูมิสม่ำเสมอ จะเอื้อต่อการเจริญเติบโตของตะไคร่น้ำมากกว่าน้ำเย็น
- การปนเปื้อนอื่น ๆ : เช่น เศษอาหาร ใบไม้ หรือฝุ่นที่ตกลงไปในถังน้ำ สามารถเป็นแหล่งอาหารให้ตะไคร่น้ำเพิ่มจำนวนได้
ผลกระทบจากการใช้น้ำที่มีตะไคร่
การใช้บริโภค
- รสชาติและกลิ่นไม่พึงประสงค์ ทำให้น้ำมีกลิ่นเขียวหรือรสชาติเปลี่ยน
- ความเสี่ยงต่อเชื้อโรค เนื่องจากตะไคร่น้ำบางชนิดอาจเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียหรือเชื้อโรค
- คุณภาพน้ำลดลง น้ำขุ่นและมีสารอินทรีย์หรือสารอาหารมากเกินไป
- เสี่ยงต่อโรคท้องเสียหรือปัญหาทางเดินอาหาร ห
การใช้อุปโภค
- น้ำขุ่นและมีสีเขียว ทำให้เกิดคราบสกปรกบนอุปกรณ์หรือพื้นผิว
- เกิดการอุดตันท่อหรือเครื่องกรองน้ำ ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง
- ลดความสะอาดของพื้นที่ใช้งาน ทำให้ผนังหรือพื้นเปื้อนคราบเขียว และเกิดการลื่นได้
- เพิ่มความยุ่งยากในการดูแลระบบน้ำ ทำให้ต้องล้างถังหรือท่อบ่อยขึ้น เพื่อป้องกันการสะสมของคราบตะไคร่น้ำ

ตะไคร่น้ำขึ้นในถังเก็บน้ำได้ไหม
การเกิดตะไคร่น้ำ สามารถเกิดขึ้นได้ในถังเก็บน้ำ โดยเฉพาะถังที่ตั้งอยู่กลางแดดหรือไม่มีฝาปิดสนิท เพราะแสงแดดเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ตะไคร่น้ำเจริญเติบโตได้ดี นอกจากนี้ถังที่ไม่ได้ล้างทำความบ่อย ๆ หรือมีน้ำค้างอยู่เป็นระยะเวลานาน ก็ยิ่งเอื้อต่อการเกิดตะไคร่น้ำ เนื่องจากมีตะกอนและสารอาหารสะสมอยู่
ดังนั้น เมื่อเกิดตะไคร่น้ำ น้ำในถังจะเริ่มมีกลิ่น สีเขียว และอาจลื่นตามผนังถัง จึงควรหมั่นทำความสะอาดและป้องกันไม่ให้แสงแดดส่องถึง เพื่อยับยั้งการเติบโตของตะไคร่น้ำ ไม่ให้กลับมาอีก
วิธีการจัดการกับตะไคร่น้ำในถังเก็บน้ำ
วิธีกำจัดตะไคร่น้ำในถังเก็บน้ำ สามารถทำได้ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ แต่ได้ผลดี เพื่อรักษาคุณภาพน้ำให้สะอาดและปลอดภัยต่อการใช้งานในระยะยาว โดยมีวิธีจัดการตะไคร่น้ำ ดังนี้
- ใช้ฝาปิดถังให้มิดชิดหรือเลือกถังสีทึบ เพื่อป้องกันไม่ให้แสงแดดส่องถึงภายในถัง ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยลดการเกิดตะไคร่น้ำได้ดีที่สุด
- ควรถ่ายน้ำออกและล้างถังอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง โดยใช้แปรงขัดผนังและพื้นถังให้สะอาด หากมีตะไคร่ติดแน่นอาจใช้น้ำส้มสายชูหรือน้ำยาฆ่าเชื้อที่ปลอดภัยเจือจางร่วมด้วย
- ตรวจสอบให้น้ำที่นำมาเก็บ ซึ่งควรเป็นน้ำที่สะอาด ปราศจากตะกอนหรือเศษอินทรีย์ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นอาหารของตะไคร่น้ำ
- ติดตั้งระบบกรองหรือระบบหมุนเวียนน้ำ จะช่วยลดการสะสมของตะไคร่น้ำและสิ่งสกปรกภายในถังได้เป็นอย่างดี
- หมั่นตรวจเช็กสภาพถังน้ำ หากสังเกตเห็นผนังถังเริ่มลื่นหรือมีคราบสีเขียว ควรล้างทันที เพื่อป้องกันการลุกลามของตะไคร่น้ำ
การดูแลรักษาถังเก็บน้ำอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยป้องกันและลดโอกาสเกิดตะไคร่น้ำได้ในระยะยาว ทำให้น้ำสะอาด ปลอดภัย และพร้อมใช้งานอยู่เสมอ

