ทำความรู้จัก น้ำ DI กับ RO แตกต่างกันอย่างไร สำคัญกับชีวิตประจำวันของเรายังไงบ้าง

DI-กับ-RO-แตกต่างกันอย่างไร

น้ำ DI กับ RO

ก่อนจะเข้าใจระบบ RO หรือ ระบบ DI จะขออธิบายภาพรวมระบบน้ำต่าง ๆ ก่อนดังนี้

ในการทำระบบกรองน้ำอุตสาหกรรมให้ได้คุณภาพ สิ่งหนึ่งที่ทุกคนเข้าใจ คือ การบำบัดน้ำนั้น ๆ ให้บริสุทธิ์ที่สุด ซึ่งความเข้าใจนี้อาจจะไม่ถูกทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่น หากเราต้องการนำน้ำไปรดน้ำต้นไม้ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องเป็นน้ำสะอาดมากนัก เพียงแค่กรองตะกอนออกก็เพียงพอ

ฉะนั้นสิ่งที่เป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างนึงของการออกแบบ และ ก่อสร้างระบบกรองน้ำอุตสาหกรรม คือ การทราบความต้องการก่อนว่าจะนำน้ำไปใช้อะไร และต้องการความบริสุทธิ์ขนาดไหน  

น้ำ DI คืออะไร

น้ำ DI (Deionized Water) คือ การทำนํ้าให้มีความบริสุทธิ์สูงมาก โดยผ่าน Ion Exchange เพื่อจับทั้งไอออนบวกและลบออกจากนํ้าโดย น้ำนํ้า DI นั้นส่วนมากค่า Electric Conductivity (EC) หรือค่าความนำไฟฟ้านั้น จะมีค่าตํ่ามาก (ไม่เกิน 1 ไมโครซีเมนส์)  

โดยกระบวนการของน้ำ DI มักจะต้องใช้ระบบ RO เพื่อทำให้น้ำบริสุทธิ์ในระดับนึงก่อน แล้วจึงใช้ Ion Exchange จับประจุทั้งบวกและลบอีกครั้ง เพื่อให้น้ำปราศจากแร่ธาตุและสิ่งเจือปนให้ได้มากที่สุดก่อนนำไปใช้งาน

น้ำ RO (Reverse Osmosis) คืออะไร

น้ำ RO คือ น้ำที่ใช้กระบวนการนำน้ำผ่านเนื้อเยื่อเมมเบรน (Membrane) ที่กรองได้มากถึง 0.0001 ไมครอน โดยจะเป็นน้ำที่มีความบริสุทธิ์ แต่ยังคงมีค่านำไฟฟ้า Electric Conductivity (EC)  มากกว่าน้ำ DI 

ซึ่งน้ำ RO จะมีความบริสุทธิ์น้อยกว่า แต่ถูกใช้งานแผ่หลายกว่า เช่น  การทำโรงงานน้ำดื่ม โรงงานผลิตอาหาร หม้อไอน้ำ หรือการผลิตสินค้า  

สามารถแบ่งความบริสุทธิ์ของน้ำได้ทั้งหมดกี่หมวด

โดยถ้าหากแบ่งความบริสุทธิ์ของน้ำเบื้องต้นจะแบ่งได้เป็น 5 หมวดดังนี้

1.น้ำใช้ทั่วไป ที่ผ่านเพียงการกรองหยาบ

น้ำลักษณะนี้จะเป็นการนำน้ำผิวดิน น้ำบาดาล หรือ น้ำเสียที่บำบัดแล้ว มาทำการกรองหยาบโดยกรวดหินทราย (บางครั้งอาจมีกรองถ่าน) โดยนำน้ำที่ได้ไปใช้งานที่ไม่ต้องการความสะอาดมากนัก เช่น การรดน้ำต้นไม้ การล้างรถ ล้างพื้น

2.น้ำประปา

ระบบน้ำประปา คือ น้ำที่นำน้ำดิบมาตกตะกอน กรอง ฆ่าเชื้อ และบำบัดเพื่อให้สามารถใช้อุปโภค บริโภคได้ (แต่ยังไม่นิยมนำมาดื่ม) ซึ่งการใช้งานก็จะเป็นการใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป เช่น อาบน้ำ น้ำใช้ในห้องน้ำ  ซักผ้า นำไปเป็นส่วนประกอบของอาหาร

3.น้ำอ่อน Softener

ระบบน้ำอ่อน Softener คือ นำน้ำดิบที่ได้มากำจัดความกระด้างออก เพื่อใช้ในบางอุตสาหกรรม เช่น นำน้ำอ่อนมาใช้ในหม้อต้มไอน้ำ ใช้ในเครื่องจักร และบางกรณีหากแหล่งน้ำดิบนั้น ๆ มีความกระด้างสูง เช่น น้ำบาดาล ก็จำเป็นต้องติดตั้งระบบกรองน้ำอ่อนก่อนใช้งาน

คลิกอ่านเพิ่มเติม : น้ำอ่อน (Soft Water) คืออะไร ความหมายของน้ำอ่อนและสารที่อยู่ในน้ำมีอะไรบ้าง

บริการทำระบบน้ำ Softener

รับทำระบบผลิตน้ำอ่อน (Softener Water) แบบครบวงจรสำหรับงานอุตสาหกรรม ติดตั้งเครื่องกรองน้ำ Soft ราคาเป็นมิตร โดยมิตรวอเตอร์ "เพื่อนของน้ำ เพื่อนของคุณ"

ดูเพิ่มเติม ติดต่อเรา

4.น้ำ RO

น้ำ RO หรือ การผลิตน้ำด้วยระบบรีเวอร์สออสโมซิส (Reverse Osmosis) เป็นกระบวนการกรองน้ำผ่านเยื่อขนาด 0.0001 ไมครอน ซึ่งถือว่าเป็นน้ำบริสุทธิ์สูง ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย

ซึ่งน้ำ RO สามารถนำมาใช้งานได้หลายอย่างเช่น การผลิตน้ำดื่ม การเป็นส่วนผสมในอาหาร การนำไปใช้ในเครื่องจักร การเป็นส่วนผสมในสินค้าบางประเภท

5.น้ำ DI

น้ำ Di หรือ Deionized Water คือ การทำนํ้าให้มีความบริสุทธิ์สูงมาก นํ้า DI นั้นส่วนมากค่า Electric Conductivity (EC) หรือค่าความนำไฟฟ้านั้นจะมีค่าตํ่า (ไม่เกิน1ไมโครซีเมนส์) โดยกระบวนการของน้ำ DI มักจะต้องใช้ระบบ RO เพื่อทำให้น้ำบริสุทธิ์ในระดับนึงก่อน

ซึ่งน้ำ Di จะนิยมนำไปใช้กับงานที่ต้องการน้ำบริสุทธิ์สูง เช่น ผลิตอุปกรณ์อิเล็อกทรอนิกส์ หม้อไอนํ้าความดันสูง (High pressure boiler) ใช้งานทางการแพทย์ และห้องปฏิบัติการ

การติดตั้งระบบน้ำ RO (Reverse Osmosis) มีขั้นตอนอย่างไร

ขั้นตอนที่ 1 : ปรับสภาพน้ำดิบที่ได้เสียก่อน

นำน้ำดิบที่ได้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำบาดาล น้ำผิวดิน น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ มาปรับสภาพเบื้องต้น เพื่อลดสารแขวนลอย ตะกอนในน้ำ และความสกปรกก่อน

ขั้นตอนที่ 2 : นำน้ำดิบที่บำบัดเบื้องต้นเข้าระบบ Pretreatment

จะนำน้ำดิบที่บำบัดเบื้องต้นเข้าระบบ Pretreatment ถังแรกอาจจะเป็นระบบกรองทราย (Sand Filter) หรือระบบกรองแมงกานีส (Manganese Filter) เพื่อทำการกรองตะกอน คอลลอยด์ สนิมเหล็ก แมงกานีสในน้ำ

ต่อมาจะเข้าสู่ระบบกรองคาร์บอน (Carbon Filter) ซึ่งทำหน้าที่กรองความขุ่น สารแขวนลอย สารอินทรีย์ กลิ่น คลอรีน และสีในน้ำได้ และเพื่อไม่ให้คลอรีนหลุดไปเจอกับสารกรองเรซิ่น ซึ่งอาจเสื่อมสภาพเมื่อเจอคลอรีน

เมื่อน้ำผ่านระบบ Pretreatment 2 ขั้นตอนแรกแล้ว จะเข้าสู่ระบบ Softener ซึ่งภายในบรรจุสารกรองเรซิ่น (Resin Filter) ที่จะทำหน้าที่แลกเปลี่ยนไอออนในการผลิตน้ำอ่อน คือ การที่น้ำไหลผ่านสารแลกเปลี่ยนไอออนแล้วเกิดการแลกเปลี่ยนกันระหว่างไอออนของน้ำ กับ ไอออนอีกชนิดที่ต้องการกำจัด น้ำที่ได้จะเป็นน้ำอ่อน (Water Softener) ที่พร้อมใช้งานในกระบวนการต่อไป

ขั้นตอนที่ 3 : นำน้ำ Softener ที่ได้มาเข้าสู่ระบบน้ำ RO

นำน้ำ Softener ที่ได้มาเข้าสู่ระบบน้ำ RO ที่จะทำการกรองผ่านเยื่อเมมเบรน โดยจะมีความสามารถในการกรองได้มากถึง 0.0001 ไมครอน ทำให้ได้ระบบน้ำใช้ที่มีความบริสุทธิ์ ป้องกันพวกสารตกค้าง

คลิกอ่านเพิ่มเติม : มาทำความรู้จักกับ “สารเร่งตกตะกอน” คืออะไร ตัวช่วยกำจัดสารปนเปื้อนในน้ำ เพื่อป้องกันน้ำเสีย

การติดตั้งระบบน้ำ DI (Deionized Water) มีขั้นตอนอย่างไร

น้ำ DI จะมีระบบ RO เป็นส่วนหนึ่งเพื่อทำน้ำให้บริสุทธิ์ เพื่อให้ค่าสารละลาย (TDS) และ ค่านำไฟฟ้า Conductivity ต่ำ เพียงแต่จะมีการเพิ่มขั้นตอนอีก 1-2 ขั้นตอน เพื่อให้ลดค่านำไฟฟ้าให้ลดน้อยลงไปอีกด้วย

การนำน้ำ RO ที่ได้เข้าสู่เครื่องกรองน้ำระบบ Deionization หรือ Demineralization (DI หรือ DEMIN) เป็นระบบกรองน้ำบริสุทธิ์อีกชั้นนึง และใช้สารกรอง Cat-ion Resin และ An-anion Resin เป็นตัวจับประจุบวกและประจุลบที่อยู่ในน้ำ และ ในหลายอุตสาหกรรมจะทำการบำบัดน้ำ DI ให้มีค่านำไฟฟ้า(Conductivity)ต่ำกว่า 1 us/cm เพื่อใช้งานต่อไป

หากจะสรุปว่าระบบน้ำ DI และ ระบบน้ำ RO ต่างกันอย่างไร คงตอบได้ว่า ต่างกันที่ความบริสุทธิ์ของน้ำ และ การใช้งาน ระบบ RO มีความบริสุทธิ์น้อยกว่า และถูกใช้งานแผ่หลายกว่าในหลายอุตสาหกรรม ส่วนน้ำ Di มีความบริสุทธิ์มากกว่า และถูกนำไปใช้งานในด้านที่เฉพาะทางกว่านั่นเอง

ถ้าคุณต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำระบบน้ำใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับ Mitrwater – มิตรวอเตอร์ได้ตลอดเวลา เราพร้อมให้คำแนะนำเรื่องการทำระบบน้ำเสมอ 

บริการทำระบบน้ำ DI

รับออกแบบ ติดตั้งเครื่องกรองน้ำ DI ทำระบบน้ำ DI สำหรับการใช้งานในห้อง Lab ราคาเป็นมิตร โดยมิตรวอเตอร์ "เพื่อนของน้ำ เพื่อนของคุณ"

ดูเพิ่มเติม ติดต่อเรา