สารเคมีบำบัดน้ำเสีย คืออะไร
สารเคมีบำบัดน้ำเสีย คือ สารที่ใช้เพื่อเร่งกระบวนการกำจัดสิ่งปนเปื้อน เช่น สารแขวนลอย โลหะหนัก สี กลิ่น และสารอินทรีย์ในน้ำเสีย เพื่อให้น้ำกลับมามีคุณภาพตามมาตรฐานก่อนปล่อยสู่สิ่งแวดล้อม โดยอาศัยปฏิกิริยาทางเคมีในการรวมตะกอน เร่งการตกตะกอน ลดความขุ่น และปรับสมดุลของน้ำเสีย
นอกจากนี้ สารเคมีบำบัดน้ำเสียยังช่วยเสริมประสิทธิภาพของระบบบำบัดน้ำเสียเดิมให้ทำงานได้รวดเร็วและสม่ำเสมอมากขึ้น ลดภาระของเครื่องจักรและถังบำบัด รวมถึงสามารถจัดการน้ำเสียเฉพาะทางได้ ทำให้การบำบัดมีความแม่นยำและเป็นไปตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อมของโรงงานอุตสาหกรรมได้ดียิ่งขึ้น

ความสำคัญของการใช้สารเคมีบำบัดน้ำเสีย
การใช้สารเคมีบำบัดน้ำเสียมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำให้น้ำเสียที่มีสิ่งปนเปื้อนหลากหลายถูกกำจัดได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สารเคมีจะช่วยให้การรวมตัวและการตกตะกอนของตะกอนเป็นไปได้ง่ายขึ้น ลดความขุ่น สี กลิ่น รวมถึงสารอันตรายที่ยากต่อการบำบัดด้วยวิธีทั่วไป อีกทั้งยังช่วยปรับสมดุลของน้ำเสีย ให้เหมาะสมกับกระบวนการบำบัดขั้นอื่น ๆ
ด้วยเหตุนี้ การใช้สารเคมีจึงช่วยให้ระบบบำบัดน้ำเสียทำงานได้สม่ำเสมอ ลดภาระของเครื่องจักร ลดปัญหาน้ำเสียตกค้าง และป้องกันการปล่อยมลพิษเกินมาตรฐาน ช่วยให้โรงงานสามารถปฏิบัติตามกฎหมายและรักษาความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเหตุนี้ การใช้สารเคมีจึงช่วยให้ระบบบำบัดน้ำเสียทำงานได้สม่ำเสมอ ลดภาระของเครื่องจักร ลดปัญหาน้ำเสียตกค้าง และป้องกันการปล่อยมลพิษเกินมาตรฐาน ช่วยให้โรงงานสามารถปฏิบัติตามกฎหมายและรักษาความปลอดภัยด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประเภทของสารเคมี
สารเคมีที่ใช้ในการบำบัดน้ำเสียในปัจจุบันสามารถแบ่งออกได้ 3 กลุ่มใหญ่ดังนี้
- สารปรับสภาพน้ำ : ใช้เพื่อปรับคุณภาพน้ำเสีย เช่น ปรับค่า pH ลดความเป็นกรด-ด่าง หรือกำจัดโลหะหนักบางชนิด เพื่อเตรียมน้ำเสียให้เหมาะสมต่อกระบวนการบำบัดขั้นต่อไป
- สารช่วยตกตะกอน : ช่วยให้อนุภาคแขวนลอยในน้ำรวมตัวกันเป็นก้อนใหญ่และตกตะกอนลงสู่ก้นถังได้รวดเร็วขึ้น ทำให้น้ำใสขึ้นและง่ายต่อการแยก
- สารฆ่าเชื้อ : ใช้กำจัดเชื้อโรคและจุลินทรีย์ที่อาจเป็นอันตรายต่อมันมนุษย์และสิ่งแวดล้อม มักใช้ในขั้นตอนสุดท้ายของการบำบัดน้ำเสีย เพื่อให้ได้น้ำที่ปลอดภัยก่อนปล่อยสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ

น้ำเสียแบบไหนใช้สารสารเคมีบำบัดน้ำเสียแบบไหน
- น้ำเสียขุ่นหรือมีตะกอนสูง ใช้สารช่วยตกตะกอน เช่น โพลิเมอร์ เพื่อรวมตัวตะกอนและทำให้น้ำใสขึ้น
- น้ำเสียจากอุตสาหกรรมอาหารหรือมีไขมันสูง ใช้สารช่วยตกตะกอนร่วมกับสารปรับสภาพน้ำ เพื่อลดไขมันและตะกอนแขวนลอย
- น้ำเสียที่มีค่า pH ไม่สมดุล ใช้สารปรับสภาพน้ำ เช่น โซดาไฟ ปูนขาว หรือกรด เพื่อปรับสมดุลก่อนกระบวนการบำบัดอื่น
- น้ำเสียปนเปื้อนโลหะหนัก ใช้สารปรับสภาพน้ำหรือสารตกตะกอนเฉพาะทาง เพื่อตกตะกอนโลหะหนักออก
- น้ำเสียที่มีกลิ่นแรงหรือสีเข้ม ใช้สารฆ่าเชื้อหรือสารออกซิไดซ์ เช่น คลอรีน ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หรือโอโซน เพื่อลดกลิ่นและสีน้ำเสียที่มีกลิ่นแรงหรือสีเข้ม ใช้สารฆ่าเชื้อหรือสารออกซิไดซ์ เช่น คลอรีน ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หรือโอโซน เพื่อลดกลิ่นและสี
- น้ำเสียจากอุตสาหกรรมสิ่งทอหรือเคมีมีสีติดแน่น ใช้สารช่วยตกตะกอนเข้มข้นร่วมกับโพลิเมอร์เฉพาะทาง เพื่อกำจัดสีและสารแขวนลอย
หลักการใช้สารเคมีบำบัดน้ำเสีย
การใช้สารเคมีบำบัดน้ำเสีย ต้องอาศัยการวิเคราะห์คุณสมบัติของน้ำเสียก่อน จากนั้นเลือกชนิดและปริมาณสารเคมีให้เหมาะสม เติมสารอย่างระมัดระวัง พร้อมกับกวนหรือผสมให้สารทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ หลังจากนั้นจึงแยกตะกอนและตรวจสอบคุณภาพน้ำหลังบำบัด เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำเสียผ่านมาตรฐานและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม

ข้อควรระวังในการใช้และจัดเก็บ
การใช้สารเคมีบำบัดน้ำเสีย ต้องทำด้วยความระมัดระวัง เพื่อป้องกันอันตรายต่อผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อม ควรสวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงมือ แว่นตา และหน้ากากเสมอ ห้ามผสมสารเคมีโดยไม่ทราบคุณสมบัติหรือคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ และควรเก็บสารเคมีในที่แห้ง เย็น และพ้นจากแสงแดดหรือความร้อนสูง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเสื่อมสภาพหรือปฏิกิริยาที่อาจเกิดขึ้น
นอกจากนี้ควรตรวจสอบวันหมดอายุและสภาพภาชนะบรรจุอย่างสม่ำเสมอ และจัดเก็บให้ห่างจากบริเวณที่มีเด็กหรือสัตว์เลี้ยง เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการใช้งานและจัดเก็บ
ให้การบำบัดน้ำเสียเป็นหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญ
เนื่องจากการบำบัดน้ำเสียด้วยสารเคมี เป็นกระบวนการที่ซับซ้อน จึงควรให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้วิเคราะห์น้ำเสีย เลือกสารเคมี และควบคุมกระบวนการอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เพื่อลดความเสี่ยงต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ และให้มั่นใจว่าน้ำที่ผ่านการบำบัดปลอดภัยตามมาตรฐาน

